7 วิธีช่วยจัดการ IT Lifecycle เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจ
เมื่อเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในหลากหลายด้านต่อมนุษย์และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องมีการอัพเกรดระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการทำงานของบริษัทและป้องกันไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงัก แต่การอัพเกรดระบบไม่สามารถคาดเดาเวลาที่จะเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของระบบที่ถูกออกแบบมา
“ การจัดการวงจรของระบบ IT ” คือภาคส่วนของ IT ที่จะต้องมีความเชียวชาญในการควบคุม ติดตั้ง บำรุงรักษา การกำจัดและการเปลี่ยนแปลงระบบ ซึ่งหากไม่มีการจัดการที่ดีอาจส่งผลถึงระบบธุรกิจในวงกว้าง
วันนี้ ADD เรามีเคล็ดลับมาบอก !!
1. คาดการณ์ความต้องการของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อลดค่าใช้จ่าย
การวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้าเป็นส่วนสําคัญในการดําเนินงานธุรกิจที่ประสบความสําเร็จ
การให้ความสำคัญกับระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ทางไอทีต่างๆถือเป็นการลงทุนที่สำคัญไม่แพ้ทรัพยากรอื่นๆ
ดังนั้นเจ้าของบริษัทที่ต้องการขยายธุรกิจจะต้องมั่นใจในระบบไอทีที่จะไม่ล้มเหลวกลางคัน เพื่อรองรับความปลอดภัยของทรัพยากรทางข้อมูลต่างๆ และลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการจัดการระบบที่ล้มเหลว
2. เปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานทาง IT ที่ล้มเหลว เพื่อลดความเสี่ยง
ถ้าโครงสร้างพื้นฐานทาง IT ล้มเหลว อาจทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก พนักงานไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้ ลูกค้าเริ่มร้องเรียน และส่งผลถึงการสูญเสียรายได้ในที่สุด
ดังนั้นหลายบริษัท ได้มีการวางแผนอายุการทำงานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ล่วงหน้า เพื่อป้องกันระบบล้มเหลวแบบไม่คาดคิด
หลายบริษัทควรตรวจสอบอายุการใช้งานของระบบเพื่อป้องกันไม่ให้เสียเวลาและสูญเสียรายได้
3. หลีกเลี่ยงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ล้าหลัง
โครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบเก่าทำให้เกิดต้นทุนทางธุรกิจ เครือข่ายที่ล่าช้า และปัญหาทางซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิต และอาจกระทบถึงปัญหาอื่นๆเพิ่มเติม
ลองนึกถึง Smart phone ของคุณที่ต้องอัพเดต IOS หรือ Androi บ่อยๆ เพื่อไม่ให้เครื่องทำงานช้าหรือรองรับรูปแบบการทำงานที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
ดังนั้น
ควรหมั่นอัพเดตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของบริษัทคุณ
เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานของคุณมีระบบที่ดีรองรับในการทำงาน
4. ตัดสินใจล่วงหน้าเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้าน IT
ความล้มเหลวของการจัดการ IT Lifecycle คือการไม่วางแผนการลงทุนทางด้าน IT ล่วงหน้า ทำให้ขาดความยืดหยุ่นในการตัดสินใจ
การเตรียมตัวและรับมือกับระบบทาง IT ล่วงหน้า
จะช่วยให้คุณได้มีเวลาสำรวจ เปรียบเทียบ เข้าใจข้อดีข้อเสียของแต่ละตัวเลือกได้อย่างละเอียดมากขึ้น
และช่วยประกอบการตัดสินใจในการลงทุนทางด้าน IT ได้ดีที่สุด
5. ทำความเข้าใจค่าใช้จ่ายของเจ้าของกิจการ ค่าดูแลและซ่อมบำรุง
คุณเคยสำรวจค่าใช้จ่ายในระบบ IT ของบริษัทคุณหรือไม่? อีก 1 เหตุผลที่หลายบริษัทต้องเลื่อนการอัพเกรดระบบมาจากความผิดพลาดของค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการ บางครั้งบริษัทของคุณอาจกำลังอัพเกรดระบบเครือข่ายรุ่นใหม่ แต่ฮาร์ดแวร์ของคุณเกิดล้มเหลวซะก่อน ทำให้ต้องย้ายงบประมาณมาซ่อมส่วนนี้ก่อน
ดังนั้น
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทางด้านไอที ถือเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด
เพราะทำให้คุณสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายเหล่านี้ และหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดจากค่าใช้จ่ายด้านซ่อมบำรุงที่ไม่จำเป็น
6. ป้องกันการล้มเหลวด้านความปลอดภัยจากการใช้ซอฟต์แวร์ล้าสมัย
เครือข่ายเก่าถือเป็นเป้าหมายหลักของบรรดาชาวแฮกเกอร์และไวรัสต่างๆ
เพราะซอฟต์แวร์ที่เก่าจะมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสูง ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงกับบริษัทได้ หากแฮกเกอร์หรือไวรัสได้เห็นช่องโหว่ที่จะเข้ามาแทรกแซง เช่น ระบบข้อมูลเสีย รายชื่อลูกค้ารั่วไหล หรืออาจถึงขั้นกระทบทางด้านกฏหมายเลยทีเดียว
ดังนั้นควรรักษาเครือข่ายและระบบให้เป็นปัจจุบันเสมอ เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้กับธุรกิจและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหายทางด้านชื่อเสียง
7. กำจัดข้อมูล/อุปกรณ์ทาง IT ที่ไม่ใช้แล้ว
ไมโครซอฟต์เปิดเผยว่า อุปกรณ์ทาง IT ที่มีอายุมากกว่า 4 ปี มีโอกาสเสียมากกว่าอุปกรณ์ใหม่ถึง 3.3 เท่า หรือคิดเป็นเงินราว 50,561 บาท เท่ากับคอมพิวเตอร์ใหม่ 2 เครื่อง หรือมากกว่า รวมถึงเสียเวลาในการทำงานมากถึง 208 ชั่วโมงต่อปี
ข้อมูลที่ไม่ใช้แล้วของบริษัทควรกำจัดทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดข้อมูลรั่วไหลหรือถูกโจรกรรมทางข้อมูล
โดยกว่า 62% ของผู้ประกอบการยอมรับว่าเคยประสบปัญหาด้านข้อมูลรั่วไหลมาก่อน
แล้วเราควรทำไงดี ?
การเลือกใช้บริการจากบริษัท IT Asset Disposal ที่น่าเชื่อถือได้รับการรับรอง
เขาสามารถดูแลอุปกรณ์ IT ที่เลิกใช้งานอย่างมืออาชีพ โดยเขาจะสามารถทำลายข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบรายการทรัพย์สิน ออกใบรับรองการทำลาย Certificate of Data Destruction รวมไปถึงการรับซื้อเครื่องเก่าของคุณอีกด้วย
นั่นหมายถึงคุณได้เลิกใช้งานอย่างปลอดภัย และคุณยังสามารถทำให้มันเป็นเงินได้ ถ้าคุณบริหารจัดการดี
แน่นอนที่สุด คุณต้องเลือกบริษัทที่คุณตรวจสอบแล้วอย่างดีเท่านั้น
สรุป
ไม่ว่าคุณจะวางแผนธุรกิจมาดีแค่ไหน แต่หากคุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับการจัดการ IT Lifecycle ความสำเร็จของคุณอาจยิ่งห่างไกลออกไป เพราะเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน เราจึงต้องเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น
นอกจากการใช้ บริษัท IT Asset Disposal จะช่วยให้คุณเปลี่ยนเครื่องใหม่ ปลอดภัย ประหยัด และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย อีกหนึ่งหน่วยงานที่จะช่วยให้การจัดการอุปกรณ์ IT เป็นไปอย่างสะดวกง่ายดายคือ บริษัท IT Asset Management Consultant
บริษัท Lim & Partner, Executive Search Consulting เป็น บริษัท ในเครือของ ADD Group และเป็นสมาชิกของ Praxi Alliance Global Network
ด้วยทีมงานมืออาชีพ เราพร้อมนำความเชี่ยวชาญและให้การสนับสนุนคุณเฟ้นหาเจ้าหน้าที่ด้าน IT Asset Disposal และ IT Asset Management Consultant
การสรรหาบุคลากร ติดต่อ Lim & Partner
แหล่งที่มา : brightlineit , กรุงเทพธุรกิจ
You May Also Like