จากรายงานของ World Economic Forum พบว่า “ปัจจุบันปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-waste) ทั่วโลกได้พุ่งสูงขึ้นถึง 20-50 ล้านตัน ต่อปี” ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพ คือ ถ้าเรานำ E-Waste ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ในรถไฟจะมีความยาวประมาณ 1 รอบโลกพอดี

ในปี 2017 “มีสมาร์ทโฟนถูกขายไปกว่า 1,460 ล้านเครื่อง” และ “ในปี 2020 ที่ผ่านมาคนที่ใช้สมาร์ทโฟนพุ่งสูงถึง 2,870 พันล้านคน” ซึ่งในสมาร์ทโฟน 100 ตัน มีทองคำมากว่าที่เราพบในแร่ทองคำ 100 ตันเลยทีเดียว

และลองมาคิดดูว่าในปี 2016 มีสมาร์ทโฟนกว่า 435,000 ตัน ถูกนำไปกำจัดทิ้ง ซึ่งในนั้นยังมีโลหะที่มีค่าอีกมากอย่าง เงิน ทองแดง ทองคำขาวและพาลาเดียม อีกด้วย

ขยะเหล่านี้ถูกนำไปจัดการอย่างถูกวิธีเพียงแค่ 20% เท่านั้น

และส่วนที่เหลือจะถูกนำไปฝังกลบหรือกระจายสู่พ่อค้ารับซื้อของเก่า ที่นำไปทำลายข้อมูลหรืออุปกรณ์แบบไม่ได้มาตรฐานต่อไป

กรมศุลฯ ยังเผยอีกว่า “ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) จะทะลักเข้าไทยเพิ่มขึ้น” หลังจากจีนประกาศห้ามนำเข้าขยะมีพิษต่างๆ ทำให้หวยมาตกอยู่ที่ไทย ซึ่งประเทศเรายังมีบริษัทที่รับจัดการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกวิธี และได้มาตรฐานน้อย ทำให้ไทยต้องเตรียมรับมือกับการจัดการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเร่งด่วน

โดย Asia Data Destruction เป็นบริษัทรับจัดการอุปกรณ์ IT ที่ไม่ใช้แล้วแบบครบวงจร ได้รับมาตรฐานระดับสากล และให้บริการด้านการจัดการอุปกรณ์ IT มาแล้วกว่า 14 ปี

เราพร้อมที่จะดูแลทั้งข้อมูลและอุปกรณ์ของคุณแบบถูกต้องและปลอดภัย ทำให้คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ลงได้

วิธีจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี